ปัจจุบันนี้โรงไฟฟ้าในประเทศไทยนั้นมีหลากหลายรูปแบบเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็นโรงไฟฟ้าถ่านหิน โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ หรือแม้กระทั่งโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น โดยโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นหรือโรงไฟฟ้าผลิตพลังงานร่วมนั้นคือโรงไฟฟ้าที่สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าควบคู่ไปพร้อมกับผลิตพลังงานความร้อนนั่นเอง ซึ่งหมายความว่าโรงไฟฟ้าประเภทนี้ไม่เพียงแต่ผลิตกระแสไฟฟ้าอย่างเดียวเหมือนโรงไฟฟ้าชนิดอื่น แต่ยังผลิตพลังงานความร้อนอย่างก๊าซร้อน ของเหลวร้อนหรือไอน้ำไปด้วย เรียกได้ว่า Two in one เลยทีเดียว ด้วยเหตุนี้จึงพบโรงไฟฟ้าประเภทนี้เพิ่มมากขึ้น โดยในวันนี้เราจะมาอธิบายถึงระบบการทำงานควบคู่กันของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นว่าสามารถทำงานร่วมกับพลังงานอื่นๆ อะไรได้บ้าง
ระบบการทำงานควบคู่กันของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่น
มาดูกันว่าในการทำงานของโรงไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นนั้นมีระบบและความสามารถในผลิตพลังงานไฟฟ้าร่วมกับพลังงานความร้อนอื่นๆ อะไรได้บ้าง
- ระบบผลิตพลังงานร่วมชนิดกังหันไอน้ำ ระบบนี้จะเป็นประกอบไปด้วย หม้อไอน้ำ เครื่องกังหันไอน้ำ โดยจะใช้เชื้อเพลิงเหลว เชื้อเพลิงแข็งหรือก๊าซเป็นเชื้อเพลิงหลักในการผลิต ซึ่งเชื้อเพลิงจะถูกเผาไหม้เพื่อให้เกิดความร้อนแก่น้ำที่อยู่ในหม้อไอน้ำ โดยไอน้ำที่ออกมาจะทำหน้าที่ขับเคลื่อนเพลาของเครื่องกังหันไอน้ำและเปลี่ยนรูปเป็นพลังงานไฟฟ้า นอกจากนี้ไอน้ำที่ออกมาจากเครื่องก็ยังสามารถนำไปใช้ในขบวนการผลิตได้อีก
- ระบบผลิตพลังงานร่วมชนิดกังหันก๊าซ ระบบนี้จะเป็นระบบที่ใช้เครื่องมือคือคอมเพรสเซอร์ เป็นตัวอัดอากาศจากภายนอกและนำเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ซึ่งเชื้อเพลิงที่ถูกอัดเข้ามาจะผสมกับอากาศ ทำให้เกิดก๊าซร้อนจากการเผาไหม้และขยายตัวผ่านเครื่องกังหันก๊าซ ทำให้กังหันก๊าซขับเคลื่อนเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า
- ระบบผลิตพลังงานร่วมชนิดเครื่องยนต์สันดาปภายใน โดยระบบนี้จะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดตามประเภทของเครื่องยนต์ก็คือเครื่องยนต์ spark และเครื่องยนต์ compression ซึ่งเครื่องยนต์ทั้งสองประเภทนี้จะมีความแตกต่างกันในเรื่องของเชื้อเพลิง เครื่องยนต์ spark จะใช้ของเหลวหรือก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิง ส่วนเครื่องยนต์ compression จะ ใช้น้ำมันดีเซลหรือน้ำมันเตาเป็นเชื้อเพลิง ซึ่งพลังงานความร้อนที่ได้ออกมาจากเครื่องยนต์ทั้งสองประเภทจะออกมาในรูปแบบของก๊าซไอเสีย
โรงงานไฟฟ้าโคเจนเนอเรชั่นถือว่าเป็นโรงไฟฟ้าที่มีความคุ้มค่าและทำประโยชน์ได้ดีทีเดียว สามารถทำครั้งหนึ่งแต่ได้สองประเภท เรียกว่าเป็นการใช้ทรัพยากรได้คุ้มค่าที่สุด