เมื่อเข้าสู่ช่วงสุดท้ายของปี สิ่งที่เห็นได้เด่นชัดมากที่สุดก็คงจะหนีไม่พ้นบรรยากาศของการเฉลิมฉลองนั่นเอง โดยส่วนใหญ่แล้ว เมื่อย่างเข้าสู่เทศกาลปีใหม่ เราก็มักจะตกแต่งบ้านหรือร้านค้า รวมไปถึงสถานที่ต่างๆ ให้มีบรรยากาศที่เหมาะสมกับช่วงปลายปีอันเป็นช่วงของการพักผ่อน อย่างไรก็ดี สำหรับใครที่อยากให้การตกแต่งงานปีใหม่ดูตระการตาและน่าสนใจ ลูกโป่งถือเป็นสิ่งที่น่าสนใจมากเลยทีเดียว และข้อดีของการตกแต่งงานปีใหม่ด้วยอุปกรณ์นี้จะมีอะไรบ้งมาดูพร้อมๆ กัน  1.ประหยัดเงิน  หากว่าใครที่มีงบประมาณไม่มากเท่าไหร่ ก็คงที่จะไม่อยากตกแต่งด้วยต้นคริสมาสต์กันใช่หรือไม่ เพราะต้นคริสมาสต์ต้นหนึ่งก็ราคาเกือบพันบาทเลยก็ว่าได้ ดังนั้นสิ่งที่จะช่วยให้การตกแต่งบรรยากาศปีใหม่เหมาะสมกว่าเดิมก็คือการใช้วิธีอย่างเลือกเป็นบอลลูนขนาดเล็ก เพราะว่าทำให้บรรยากาศรื่นเริงได้ไม่แพ้ต้นคริสมาสต์เลยทีเดียว แต่อย่างไรก็ดี หากว่าใครที่อยากให้ประหยัดมากขึ้นไปอีก แนะนำเลยว่าให้เลือกเป็นการตกแต่งในสไตล์ที่น่าสนใจ หรือว่ามีธีมงาน รับรองได้เลยว่าแม้จะหมดเงินไม่มากแต่ก็มอบความสวยงามได้เช่นกัน  2.เก็บง่าย  การตกแต่งในลักษณะนี้สามารถจัดเก็บได้แบบง่ายดายมากเลยทีเดียว จึงอาจจะกล่าวว่า ใครที่ชื่นชอบการตกแต่งในสไตล์ดังที่ได้กล่าวมาข้างต้น ก็ควรเลือกใช้เป็นบอลลูนขนาดเล็กหรือลูกโป่งจะดีกว่าแบบอื่นๆ ปัจจุบันมีทั้งแบบที่ประดิษฐ์เป็นตัวอักษร ตัวเลข ไม่ว่าจะเป็นภาษาไทยหรือว่าภาษาอังกกฤษ มีหลายต่อหลายแบบด้วยกัน เราจะเลือกแบบไหนก็ได้ทั้งสิ้น  3.เหมาะกับปาร์ตี้ทุกแบบ  สำหรับจุดเด่นของการตกแต่งด้วยบอลลูนขนาดเล็กก็คือเหมาะสมเป็นอย่างมากสำหรับปาร์ตี้ในทุกๆ แบบ เพราะว่าช่วยเสริมสร้างบรรยากาศได้อย่างน่าสนใจและน่าอัศจรรย์ใจ เรียกได้ว่าตอบโจทย์สำหรับการจัดแต่งบรรยากาศในงานปาร์ตี้ เช่นธีมงานวัด เป็นต้น  4.ปลอดภัย  เนื่องจากว่าวัสดุที่ใช้ในการผลิตยุคนี้ได้ผ่านการคัดสรรค์มาเป็นอย่างดี พร้อมกันนั้นก็ยังมีการตรวจสอบคุณภาพ เพื่อที่จะให้ได้สิ่งที่ดีที่สุดในการตกแต่งบรรยากาศงานปีใหม่ เหมาะสมกับคนที่อยากเพิ่มความปลอดภัยให้กับคนที่มาร่วมงานปาร์ตี้  และนี่ก็คือข้อดีของการตกแต่งงานปีใหม่ด้วยลูกโป่ง หากว่าใครที่อยากให้การตกแต่งบรรยากาศปีใหม่เป็นเรื่องที่เสริมสร้างความประทับใจให้กับตนเอง อย่าลืมเลือกเป็นการเสริมสร้างบรรยากาศในงานด้วยบอลลูนขนาดเล็ก เพื่อให้การฉลองปีใหม่เต็มเปี่ยมไปด้วยความสดใสนั่นเอง รับรองได้เลยว่าการตกแต่งตามที่เราตั้งใจ จะทำให้บรรยากาศโดดเด่นมากกว่าเดิมได้อย่างน่าอัศจรรย์เลยทีเดียว 

ปัจจุบันการถ่ายโอนข้อมูลต่าง ๆ ที่ใช้งานในระบบคอมพิวเตอร์นั้นสามารถทำได้ง่ายเพียงแค่ใช้เครือข่ายอินเทอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นการส่งไฟล์งานที่เราทำอยู่นั้นไปให้คอมพิวเตอร์ของเพื่อนที่อยู่ต่างจังหวัด เพียงแค่เครื่องคอมพิวเตอร์นั้นมีการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตก็สามารถอัปโหลดงานต่าง ๆ ขึ้นไปยัง Cloud ของ Platform นั้น ๆ จึงทำให้อุปกรณ์ในการเก็บข้อมูลในยุคสมัยก่อนอย่างเช่น ฮาร์ทดิส เมมโมรี่การ์ดหรือแม้แต่กระทั่งแฟลชไดร์ฟเองนั้นได้รับความนิยมน้อยลง ตามความเจริญก้าวหน้าของเทคโนโลยีทางด้านไอทีที่กำลังเป็นยุคทอง จึงเป็นสาเหตุที่การรับทำแฟลชไดร์ฟนั้นค่อย ๆ ลดน้อยลงไปตามกาลเวลา  แฟลชไดร์ฟคืออะไร  ก่อนอื่นเราต้องมาทำความรู้จักกับเจ้าแฟลชไดร์ฟนี้กันก่อนว่าคืออะไร สำหรับคนรุ่นใหม่ ๆ อาจจะยังไม่เคยใช้เจ้าอุปกรณ์พกพาชิ้นนี้กันแล้ว เนื่องจากอยู่ในยุคที่การรับส่งข้อมูลนั้นสามารถทำได้อย่างง่ายดายเพียงแค่ปลายนิ้วเท่านั้น โดยที่มาของเจ้าแฟลชไดร์ฟนี้ถูกสร้างมาเพื่อเป็นที่จัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นไฟล์รูปภาพ ไฟล์วีดีโอหรือแม้แต่กระทั่งไฟล์งานต่าง ๆ ไว้ในหน่วยความจำที่ถูกเรียกว่า แฟลชที่ฝังอยู่ในตัวของแฟลชไดร์ฟนี้นั่งเอง โดยหน่วยความจำนี้สามารถเขียนหรือลบใหม่ได้อย่างอิสระ โดยความจุของที่จัดเก็บข้อมูลนั้นก็จะมีอยู่หลากหลายความจุด้วยกัน เริ่มต้นที่ 8 GB ไปจนถึง 1 TB เลยทีเดียว ส่วนใหญ่แล้วมักนิยมถ่ายโอนข้อมูลด้วยหัวอ่าน USB แต่ในสมัยปัจจุบันช่างที่รับทำแฟลชไดร์ฟนั้นสามารถผลิตหัวอ่านแบบ Type C ได้แล้ว เพื่อรองรับอุปกรณ์ที่ในปัจจุบันนิยมใช้ พอร์ต Type C กันอย่างแพร่หลาย  ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟ   ประโยชน์ของแฟลชไดร์ฟนั้นมีอย่างมากมาย เช่น การเก็บข้อมูลนั้นสามารถเก็บไฟล์ที่มีความละเอียดได้อย่างใกล้เคียงกับต้นฉบับ สามารถบันทึกแล้วลบออกได้โดยที่ไม่ใช้พื้นที่ในการลบบนตัวของแฟลชไดร์ฟเลย อีกทั้งมีขนาดที่เล็ก สามารถพกพาไปไหนมาไหนได้ทุกที่อย่างไม่เกะกะ มีให้เลือกซื้อเลือกใช้ในหลากหลายรูปแบบ ด้วยรูปร่างสีสันหน้าตาที่แตกต่างกันจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก   ข้อเสียของแฟลชไดร์ฟ  อันดับแรกเลยนั่นก็คือด้วยความที่มีขนาดที่เล็กนั้นที่สามารถทำหายได้อย่างง่ายดายมาก ตัวแฟลชไดร์ฟนั้นสามารถติดไวรัสจากคอมพิวเตอร์ได้ อีกทั้งยังสามารถแพร่กระจายไวรัสคอมพิวเตอร์จากเครื่องหนึ่งสู่เครื่องหนึ่งได้อย่างง่ายดายเพียงแค่การ Jump เข้ากับคอมพิวเตอร์ แน่นอนเมื่อแฟลชไดร์ฟของเราติดไวรัสแล้วคงหนีไม่พ้นคนที่รับทำแฟลชไดร์ฟที่จะต้องแก้ไขและกำจัดไวรัสนั้นออกด้วยโปรแกรม Antivirus ต่าง ๆ ซึ่งทำให้เสียค่าใช้จ่ายเกิดขึ้น ถ้าในกรณีที่แย่ที่สุดนั้นก็คือข้อมูลทั้งหมดอาจสูญหาย อีกทั้งการกู้คืนนั้นไม่สามารถ Recovery ได้อย่างร้อยเปอร์เซ็นต์อีกด้วย 

บริษัทรับสร้างบ้านในปัจจุบันมีให้เลือกเป็นจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามระยะเวลาที่ผ่านไปซึ่งบริษัทเหล่านี้จะมีการให้บริการที่แตกต่างกันรวมถึงเอกลักษณ์และจุดเด่นไม่เหมือนกัน รวมถึงประสบการณ์ด้านการบริการที่แตกต่างกันด้วย ในบทความจะมากล่าวถึงบริษัทรับสร้างบ้านที่ได้รับความนิยมของประเทศไทยในปัจจุบันว่ามีอะไรบ้าง  บริษัทรับสร้างบ้านที่ได้รับความนิยม  เมื่อกล่าวถึงบริษัทรับสร้างบ้านยอดนิยมในปัจจุบันนั้น จะมีหลากหลายบริษัทซึ่งล้วนแล้วแต่มีคุณภาพ น่าเชื่อถือ สามารถกล่าวได้อย่างคร่าว ๆ ดังนี้  บริษัท Trendy Home   เป็นบริษัทที่หลาย ๆ คนน่าจะคุ้นหูกันเป็นอย่างดี เพราะอยู่ในเครือของบริษัท แลนดี้ โฮม จำกัด โดยทำงานกันอย่างมืออาชีพและมีประสบการณ์มาเป็นระยะเวลานาน มีการใช้ Nova System หรือก็คือระบบการสร้างบ้านกึ่งสำเร็จรูป โครงสร้างของบ้านมีความทนทาน แข็งแรง พร้อมด้วยนวัตกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจ ถูกรับประกันมาเป็นเวลา 20 ปี มีการออกแบบที่ทันสมัยและแบบแปลนบ้านซึ่งมีให้เลือกเป็นจำนวนมากกว่า 80 แบบ ไม่ว่าจะเป็นบ้านหน้ากว้าง บ้านสองชั้น บ้านหน้าแคบ และบ้านชั้นเดียว ถูกควบคุมงานโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ  บริษัท Four Pattana Group   เป็นบริษัทที่เปิดให้บริการมาเป็นเวลานานถึง 40 ปี จุดเด่นของบริษัทนี้ก็คือการจ้างช่างของตนเอง จึงรอบรับได้ว่าบ้านที่ถูกสร้างมานี้มีมาตรฐานและมีคุณภาพสูง อีกทั้งยังมีบริการในรูปแบบของ One Stop Service ที่ครบวงจรและครอบคลุมในทุกการบริการไม่ว่าจะเป็นการออกแบบบ้าน สร้างบ้าน มีแบบบ้านให้เลือกทั้งหมด 3 ซีรีส์ นั่นก็คือ Green Series (เน้นในเรื่องของการอนุรักษ์ด้านขนาดของที่ดินและพลังงาน), Elegant Series (เน้นด้านความสง่างาม) และ Premium Series (เน้นในเรื่องของความคลาสสิก)  บริษัท PDHouse   เป็นบริษัทรับสร้างบ้านและให้คำปรึกษาที่ครบวงจรพร้อมด้วยทีมงานมืออาชีพที่ให้บริการอย่างมีประสิทธิภาพ ใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการก่อสร้าง แล้วเน้นไปในด้านของการประหยัดพลังงาน แบบบ้านมีให้เลือกเป็นจำนวนมากกว่า 200…

ปัจจุบันนี้เราจะพบว่าประเทศไทยได้กลายเป็นประเทศของผู้สูงอายุไปเรียบร้อยแล้ว ที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะว่าคนสูงวัยในประเทศไทยมีจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ นั่นเอง อย่างไรก็ดีเวลาที่ใครต้องเผชิญกับปัญหาคนในครอบครัวป่วย แต่ตนเองไม่มีเวลาดูแล สิ่งที่ทำให้เกิดความเครียดก็คือทำอย่างไรจะสามารถดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีคุณภาพ โดยที่ผู้ป่วยเองก็ไม่เกิดความเครียดและความกังวลตามไปด้วย ซึ่งหลักสำคัญในการดูแลผู้ป่วยก็คือการเลือกเป็นศูนย์ดูแลผู้ป่วยดีๆ นั่นเอง วันนี้เราจะอาสาพามาดูกันว่าศูนย์ดูแลผู้ป่วยเป็นอย่างไรบ้าง  1.ศูนย์ดูแลผู้ป่วยมีทั้งของรัฐและเอกชน  บางคนอาจจะเข้าใจว่าศูนย์ดูแลคนป่วยมีแค่เอกชนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ในความเป็นจริงแล้วของรัฐบาลเองก็มีเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นโรงพยาบาลทหารผ่านศึก โรงพยาบาลเวชศาสตร์เขตร้อน โรงพยาบาลหัวเฉียวเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งโรงพยาบาลแต่ละแห่งจะมีแผนกดูแลผู้ป่วยติดเตียง หรือผู้ป่วย Stroke ด้วยกันทั้งสิ้น แม้จะเป็นของรัฐบาล แต่ก็ต้องทำความเข้าใจเอาไว้ด้วยว่า ไม่สามารถเบิกจ่ายได้ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายที่สูงมากนั่นเอง ดังนั้นสิ่งที่สำคัญมากที่สุดได้แก่การเลือกใช้วิธีการสอบถามไปยังสถานพยาบาลแห่งต่างๆ เสียก่อนว่ามีค่าใช้จ่ายมากแค่ไหน อย่างไร เพราะถ้ามีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก จะได้เตรียมเอาไว้ก่อนนั่นเอง  2.ปัจจุบันผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และคนพิการได้รับสวัสดิการที่ดีสำหรับดูแลคนเหล่านี้หรือไม่  หลายๆ คนอาจจะไม่ทราบว่าปัจจุบันสวัสดิการของรัฐที่มอบให้กับคนสูงอายุมีเพียงเงินเดือน เดือนละ 600 บาท ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับค่าครองชีพที่สูงของประเทศไทยแล้ว ไม่มีทางที่เงิน 600 บาทนี้จะยังชีพได้เลย ด้วยคติความเชื่อของคนไทยที่มีพื้นฐานศาสนาพุทธ จึงผูกโยงการเลี้ยงดูพ่อแม่ไว้ด้วยความกตัญญูนั่นเอง ทำให้ผู้เป็นลูกต้องแบกรับภาระการดูแลพ่อแม่ไว้ หากโชคดี พ่อแม่คนใดมีสมบัติเก่าก็สามารถดูแลตนเองได้ แต่หากโชคร้ายพ่อแม่ไม่มีสมบัติเก่า ก็แน่นอนว่าจะต้องพึ่งพาลูกๆ เป็นหลัก และการพึ่งพาลูกๆ นี้ ทำให้เกิดความตึงเครียดมากกว่าเดิม ยิ่งหากพ่อแม่ป่วยด้วยโรคเรื้อรังแล้ว ก็อาจส่งผลให้เกิดชุดความคิดว่าตนเองเป็นภาระของลูกอีกด้วย  3.หากมีงบประมาณ เลือกศูนย์ดูแลผู้ป่วยเอกชนดีหรือไม่  หลายๆ คนมักจะคิดว่าศูนย์ดูแลผู้ป่วยของรัฐบาลอาจไม่ดีอย่างที่คิด ทั้งที่ในความเป็นจริงแล้ว ศูนย์ผู้ป่วยของรัฐและเอกชนเองก็ต้องคัดกรองและตรวจสอบไม่แพ้กัน เพราะบางแห่งเก็บเงินแพงแต่ก็ดูแลไม่ดี…

การมอบกระเช้าดอกไม้ให้กับใครสักคน ถือเป็นสิ่งที่หลายคนต้องการ เพราะกระเช้าใส่ดอกไม้ในปัจจุบันนี้ ถือว่ามอบให้ได้หลากหลายโอกาสอย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นโอกาสพิเศษอย่างการเยี่ยมไข้ การรับปริญญา หรือบางคนจะเลือกเป็นการมอบให้กับญาติผู้ใหญ่ที่เรารักได้ อย่างไรก็ดี ข้อห้ามในการจัดกระเช้าดอกไม้เป็นอย่างไรบ้าง หลายๆ คนอาจจะยังไม่รู้มาก่อน วันนี้เราอาสาพามาดูข้อห้ามในการจัดกระเช้าแล้ว  1.ไม่เลือกดอกไม้อัปมงคลใส่กระเช้าดอกไม้  หลายๆ คนอาจจะไม่รู้มาก่อนว่ามีดอกไม้อัปมงคลจำนวนมากที่เราอาจจะยังไม่รู้มาก่อน อย่างไรก็ดี สำหรับประเทศไทย ดอกไม้ที่อัปมงคลมักจะไม่ถูกนำมาเข้าช่อกันอยู่แล้ว เช่นดอกชวนชม ดอกซ่อนกลิ่น เป็นต้น แต่สำหรับประเทศญี่ปุ่น มีดอกไม้หลายต่อหลายชนิดที่เป็นดอกไม้ที่ไม่ควรนำมาจัดช่อ เช่นดอกเบญจมาศ ดอกสึบากิ หรือดอกปอปปี้ เป็นต้น โดยดอกเบญจมาศเป็นดอกไม้งานศพ ที่คนญี่ปุ่นถือมากนั่นเอง  2.จัดกระเช้าใหญ่เกินไป  อีกหนึ่งสิ่งที่ถือว่าเป็นความผิดพลาดมากที่สุดก็คือการที่เราเลือกจัดกระเช้าใหญ่เกินไป เพราะปกติแล้วกระเช้าที่ใหญ่เกินไปจะให้ความรู้สึกที่อลังการมากกว่าเดิม อีกทั้งยังมีส่วนสำคัญคืออาจจะทำให้หลายๆ คนรู้สึกสับสนเลยก็เป็นไปได้ จะดีกว่าหรือไม่หากว่าเรานั้นเลือกสิ่งที่เหมาะสมกับตนเอง เช่นการเลือกกระเช้าไม่ใหญ่มาก แต่มีคุณภาพและราคาไม่แพง   3.เลือกกระเช้าพลาสติก  สำหรับกระเช้าพลาสติกเป็นกระเช้าที่หลายๆ คนชื่นชอบกันเป็นอย่างมาก โดยกระเช้าพลาสติกราคาถูก แต่ก็ควรระวังเอาไว้ด้วยว่ากระเช้าแบบนี้อาจจะไม่ทำให้คนรับประทับใจแต่อย่างใด เพราะว่าดูไม่มีรสนิยม แต่หากว่าหาไม่ได้จริงๆ ก็อาจจะเลือกเป็นการใช้กระเช้าที่โดดเด่นและเหมาะสม เช่นกระเช้าสีขาวก็ได้เช่นกัน อย่างไรก็ดีการเลือกกระเช้าพลาสติก ควรเลือกเป็นสไตล์ที่ไม่เหมือนพลาสติกเกินไป บางคนอาจจะเลือกเป็นแบบเลียนแบบกระเช้าหวายก็น่าสนใจไม่น้อยเลยเช่นกัน  4.เลือกดอกไม้ตามใจคนจัด  อย่างที่เรานั้นรู้กันดีอยู่แล้วว่าคนจัดดอกไม้ย่อมชอบดอกไม้ที่แตกต่างกันออกไป ดังนั้นหากจะให้ดีเราก็ควรจะต้องเลือกเป็นดอกไม้ที่มีสไตล์ และถูกใจคนรับด้วย เช่นหากว่าเรารู้ว่าคนรับชอบดอกยิปโซ่ก็ควรเลือกดอกยิปโซเป็นต้น ในกรณีที่แตกต่างกันออกไป…

แบ่งแต่ละรอบออกเป็น รอบค่าใช้จ่ายของสินค้าที่ได้ทำการซื้อและค่าส่งภายในประเทศจีน และรอบของ Shipping จีน เป็นรอบขนส่งจากจีนมายังประเทศไทยค่าขนส่งแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ส่วนที่ 1 คือ ค่าขนส่งจากจีน-จีน หมายความว่า สินค้าจากร้านค้าที่ได้ทำการสั่งซื้อสินค้าจะถูกนำส่งมายังโกดังของจีนก่อน ส่วนที่ 2 คือ ค่าขนส่งจากจีน-ไทย หมายความว่า เมื่อสินค้าได้ถูกขนส่งมายังโกดังของจีนแล้ว ขั้นตอนถัดไปคือการลำเลียงหรือการขนส่งสินค้าออกนอกประเทศ อาจผ่านทางเรือ ทางบก หรือทางอากาศ ซึ่งเป็นส่วนของการให้บริการของ Shipping ที่ได้เลือกใช้บริการนั่นเอง ซึ่งขั้นตอนนี้จะอยู่ในกระบวนการที่สินค้ากำลังถูกขนส่งมายังประเทศไทย ส่วนที่ 3 คือ ค่าขนส่งจากไทย-ไทย หมายความว่า เป็นการขนส่งภายในประเทศไทย เป็นการนำสินค้าที่เก็บไว้ในโกดังไทย และเตรียมกระจายส่งไปยังที่อยู่ของผู้สั่งซื้อสินค้า หรือหากต้องการประหยัดค่าใช้จ่ายสำหรับการขนส่งส่วนนี้ สามารถไปรับสินค้าได้ด้วยตัวเองตามโกดังของแต่ละบริษัท Shipping ที่ได้ใช้บริการ สั่งของจากจีน มีรูปแบบการขนส่งสินค้าและวิธีคำนวนราคาอย่างไร รูปแบบการให้บริการขนส่งสินค้าจากจีนมีอยู่ด้วยกัน 3 รูปแบบ คือ ทางเครื่องบิน มีความรวดเร็วในการขนส่งสินค้ามาก ถือเป็นการขนส่งที่ไวที่สุด ขณะเดียวกันก็มีราคาที่แพงที่สุด , ทางรถ มีราคาที่ถูกกว่า เหมาะกับสินค้าที่แตกหักได้ง่าย โดยใช้เวลาประมาณ…